Posted on

วิรุณจำบัง

KHON MASK – หัวโขน สร้างสรรค์โดย : วัฒนา แก้วดวงใหญ่ถ่ายภาพ : พิภพ บุษราคัมวดี วิรุณจำบัง           วิรุณจำบัง เป็นโอรสของพญาทูษณ์ กษัตริย์เมืองจารึกองค์ที่ 1 โอรสองค์ที่ 5 ของท้าวลัสเตียนกับนางรัชฎา น้องชายร่วมบิดามารดาของทศกัณฐ์          วิรุณจำบัง มีม้าทรงคู่ใจตัวดำปากแดงชื่อ นิลพาหุ ซึ่งสามารถหายตัวได้ทั้งตนและม้า วิรุณจำบังรับอาสาทศกัณฐ์ยกทัพไปทำสงครามกับพระรามและพลวานรซึ่งกำลังมุ่งหน้ามาที่กรุงลงกาเพื่อทวงนางสีดาคืน โดยไปสมทบกับทัพของท้าวสัทธาสูร เจ้าเมืองอัสดง สหายอีกตนของทศกัณฐ์ ซึ่งต่อมาก็ถูกหนุมานฆ่าตาย สอบถามข้อมูลการทำหัวโขน : Post Views: 309

Posted on

รามสูร หน้าทอง

KHON MASK – หัวโขน สร้างสรรค์โดย : วัฒนา แก้วดวงใหญ่ถ่ายภาพ : พิภพ บุษราคัมวดี รามสูร หน้าทอง           รามสูร เป็นชื่อของยักษ์ตนหนึ่งมีฤทธิ์เดชมาก เป็นตัวละครในวรรณคดีเรื่องรามเกียรติ์ปรากฏการต่อสู้ในวรรณกรรมรามเกียรติ์ 2 ได้แก่           ครั้งแรก เป็นการต่อสู้ระหว่างรามสูรกับเทพอรชุน กล่าวคือ นางเมขลาได้รับหน้าที่ดูแลดวงแก้วแห่งมหาสมุทร ซึ่งรามสูรอยากได้ จึงเข้ามาแย่งชิง เป็นที่มาของตำนาน “ฟ้าผ่า” “ฟ้าแลบ” ซึ่งฟ้าผ่ามาจากขวานของรามสูรที่ถูกกับก้อนเมฆ ฟ้าแลบมาจากการที่นางมณีเมขลาล่อแก้วแล้วส่องประกายมายังเบื้องล่าง เทพอรชุนมาเห็นเข้าก็เข้ามาห้ามปราม ด้วยว่าเป็นการไม่เหมาะไม่ควรที่ชายจะไปไล่ล่าชิงของจากหญิง เทพอรชุนเข้าต่อสู้เพราะรามสูรไม่ยอมเลิกลา จนสุดท้าย เทพอรชุนพลาดท่าถูกรามสูรจับเท้าเหวี่ยงฟาดกับเขาพระสุเมร เป็นเหตุให้พระอินทร์ต้องเชิญพาลีและสุครีพมาตั้งให้ตรง           ครั้งที่สอง เป็นคราวที่ พระรามกำลังเดินทางกลับมาจากพิธียกศรซึ่งท้าวทศรถก็มาด้วย รามสูรมานอนขวางทาง พอทราบว่า ท้าวทศรถ ผู้มีความเก่งกาจเป็นอย่างมาก ก็ต้องการจะลองฝีมือ แต่ท้าวทศรถกล่าวว่าตนแก่ชรา ฝีมือไม่เท่าครั้งก่อน พระรามจึงอาสาออกสู้กับรามสูร พระรามปล่อยศรไปจนรามสูรยอมแพ้ และมอบธนูให้พระรามหนึ่งคัน ซึ่งต่อมาพระรามก็นำมาใช้ต่อกรกับพระยาขร คราวที่นางสำมนักขา ไปยุยงให้มาต่อสู้กับพระราม  สอบถามข้อมูลการทำหัวโขน : Post Views: 403

Posted on

อินทรชิต หน้าทอง

KHON MASK – หัวโขน สร้างสรรค์โดย : วัฒนา แก้วดวงใหญ่ถ่ายภาพ : พิภพ บุษราคัมวดี อินทรชิต หน้าทอง ลักษณหัวโขนอินทรชิต          กายสีเขียว หนึ่งหน้า สองกร ตาโพลง เขี้ยวคุด (เขี้ยวดอกมะลิ) ปากหุบ ทรงชฎาเดินหน หรือ กาบไผ่ยอดปัด จอนหูมี 2 แบบ คือจอนหูแบบมนุษย์และจอนหูแบบยักษ์ นอกจากนี้ยังทำหน้าสีทองอีกแบบหนึ่ง และในตอนเป็นเด็กสวมกะบังหน้ามีเกี้ยวรัดจุก (ชฎาเด็กหรือหัวกุมารไว้จุก) กายสีเขียว 1 พักตร์ 2 กร           อินทรชิต (สันสกฤต: इन्‍द्र जीत อินฺทฺร ชีต) เดิมมีชื่อว่า รณพักตร์ เป็นบุตรทศกัณฐ์กับนางมณโฑ มีมเหสีชื่อ นางสุวรรณกันยุมา มีบุตรชื่อยามลิวันและกันยุเวก มีกายสีเขียว มีฤทธิ์เก่งกล้ามาก เมื่อโตขึ้นจึงทูลลาพระบิดาและพระมารดาเพื่อไปศึกษาวิชากับพระฤๅษีโคบุตรจนสำเร็จวิชามนต์มหากาลอัคคี จึงกราบลาอาจารย์เพื่อไปบำเพ็ญตบะ เมื่อบำเพ็ญจนเก่งกล้าแล้ว จึงทำพิธีขออาวุธวิเศษต่อมหาเทพทั้ง 3 มหาเทพจึงประทานอาวุธวิเศษให้ คือ         Continue readingอินทรชิต หน้าทอง

Posted on

พระพิฆเนศ องค์สีแดง

KHON MASK – หัวโขน สร้างสรรค์โดย : วัฒนา แก้วดวงใหญ่ถ่ายภาพ : พิภพ บุษราคัมวดี พระพิฆเนศ องค์แดง           พระพิฆเนศ เทพแห่งความสำเร็จ ทั้งยังทรงเป็นเทพแห่งศิลปวิทยาการและการประพันธ์ เชื่อว่าถ้าบูชาแล้ว ป้องกันความขัดข้องที่จะเกิดขึ้นได้ สอบถามข้อมูลการทำหัวโขน : Post Views: 244

Posted on

พระราม

KHON MASK – หัวโขน สร้างสรรค์โดย : วัฒนา แก้วดวงใหญ่ถ่ายภาพ : พิภพ บุษราคัมวดี พระราม           พระรามเป็นพระโอรสของ ท้าวทศรถ และ นางเกาสุริยา แห่งกรุงอโยธยา กษัตริย์ผู้ครองแคว้นโกศล พระรามมีพระอนุชา 3 พระองค์ คือ พระลักษณ์, พระพรต และ พระสัตรุด พระรามอภิเษกสมรสกับนางสีดา แม้จะเกิดในราชวงศ์ที่สูงส่ง แต่ชีวิตของพระรามที่มีบรรยายไว้กลับระบุว่าเปลี่ยนแปลงไปในทางตรงข้ามอย่างคาดไม่ถึง เช่น การเนรเทศไปสู่สถานที่ที่ยากไร้และกันดาร ทำให้เกิดคำถามด้านจริยธรรม และประเด็นขัดแย้งทางศีลธรรมในภายหลัง ในช่วงเวลาที่พระรามเดินป่าเกือบ 14 ปีนั้น ช่วงเวลาที่โดดเด่นมากที่สุดคือการลักพาตัวนางสีดาโดยจอมอสูรอย่างทศกัณฐ์ ตามด้วยความพยายามอย่างยิ่งยวดของพระรามและพระลักษมณ์ เพื่อการชิงนางสีดากลับมา และสังหารทศกัณฐ์ที่ชั่วร้าย เรื่องราวชีวิตทั้งหมดของพระราม นางสีดา และบุคคลต่างในรามายณะ เปรียบเทียบได้กับหน้าที่ สิทธิ และความรับผิดชอบต่อสังคมของแต่ละบุคคล แสดงให้เห็นถึงการดำเนินชีวิตด้วยธรรมะ โดยมีตัวละครฝ่ายพระรามเป็นแบบอย่าง สอบถามข้อมูลการทำหัวโขน : Post Views: 280

Posted on

พระลักษมณ์ หน้าทอง​​

KHON MASK – หัวโขน สร้างสรรค์โดย : วัฒนา แก้วดวงใหญ่ถ่ายภาพ : พิภพ บุษราคัมวดี พระลักษมณ์ หน้าทอง​​ พระลักษมณ์ (สันสกฤต:लक्ष्मण)เป็นตัวละครในเรื่องรามเกียรติ์ เป็นอวตารของพญาอนันตนาคราช แท่นบรรทมของพระนารายณ์กับสังข์ของพระนารายณ์ มีพระวรกายสีเหลืองดั่งทองทา เป็นโอรสของท้าวทศรถและนางสมุทรชา มีพระอนุชาร่วมพระมารดา คือ พระสัตรุด พระลักษมณ์เคยได้ไปร่วมพิธียกธนูโมลีที่มิถิลา ได้ลองยกศรก่อนพระราม เมื่อจับศรแล้วศรขยับแต่แกล้งทำเป็นยกไม่ได้เพราะรู้ว่าพระรามหลงรักนางสีดาตั้งแต่แรกเห็น อีกทั้งพระลักษมณ์ก็ไม่ได้รักนางสีดาแบบชู้สาว พระรามจึงได้อภิเษกสมรสกับนางสีดา สอบถามข้อมูลการทำหัวโขน : Post Views: 266

Posted on

พระวิษณุกรรม โล้น หน้าทอง

KHON MASK – หัวโขน สร้างสรรค์โดย : วัฒนา แก้วดวงใหญ่ถ่ายภาพ : พิภพ บุษราคัมวดี พระวิษณุกรรม (โล้น) หน้าทอง         พระวิษณุกรรม ครูช่างผู้สร้างเครื่องมือให้เป็นแบบอย่างให้แก่มนุษย์ พระวิษณุกรรม หรือพระวิศวกรรม พระวิสสุกรรม พระเพชรฉลูกรรม เทวดานายช่างใหญ่ของพระอินทร์ ผู้สร้างเครื่องมือสิ่งของต่าง ๆ ให้เกิดขึ้น และเป็นแบบอย่างให้กับมนุษย์ ช่างไทยแขนงต่าง ๆ ให้ความเคารพบูชาพระวิศวกรรมในฐานะครูช่าง สอบถามข้อมูลการทำหัวโขน : Post Views: 309

Posted on

พระพิราพ

KHON MASK – หัวโขน สร้างสรรค์โดย : วัฒนา แก้วดวงใหญ่ถ่ายภาพ : พิภพ บุษราคัมวดี พระพิราพ – Phra Pirap           พิราพ ตามพระราชนิพนธ์บทละครเรื่องรามเกียรติ์ในรัชกาลที่ ๑ เป็นอสูรที่พระอิศวรมอบหน้าที่ให้เป็นผู้ดูแลป่าที่เชิงเขาอัศกรรณ มีอุทยานปลูกชมพู่พวาทองอยู่ในครอบครอง ได้รับกำลังจากพระเพลิงและพระสมุทรมีอิทธิฤทธิ์เป็นที่กลัวเกรงของเหล่าเทพยดา คราวหนึ่งพิราพขึ้นไปแย่งเครื่องทรงของเทวคานางฟ้ามาสวมใส่ (เป็นที่มาของการสร้างหน้าโขน “พระพิราพทรงเครื่อง” คือสวมมงกุฎอย่างเทวดา เมื่อพระราม พระลักษณ์ นางสีดาผ่านเข้าไปและเก็บผลไม้ในบริเวณที่พิราพดูแลอยู่ จึงเกิดการสู้รบกันขึ้นพิราพตายด้วยศรพระราม)           ฐานะของพิราพในเรื่องรามเกียรติ์ของไทยแตกต่างจากพระพิราพซึ่งเป็นครูสำคัญยิ่งของวงการดนตรีนาฏศิลป์ การศึกษาของ ดร.มัทนี  รัตนิน ไว้ในบทความเรื่อง ความเป็นมาของท่ารำองค์พระพิราพ ว่า “…พระพิราพที่ศิลปินไทยนับถือว่าเป็นครูนาฏศิลป์นั้น น่าจะเป็นองค์เดียวกับไภรวะ หรือ ไกราพ ซึ่งเป็นปางดุร้ายของพระศิวะและเป็นผู้ให้กำเนิดนาฎศิลป์…”           อาจเป็นด้วยไภราพปางหนึ่งของพระศิวะกับพิราพในเรื่องรามเกียรติ์ไทย เป็นศัพท์ที่มีเสียงใกล้กันมาก โบราณจารย์จึงผนวก “เทพเจ้า” และ “หัวโขน” เข้าด้วยกัน ที่มา : โขน อัจฉริยลักษณ์นาฏศิลปืไทย, 2553 สอบถามข้อมูลการทำหัวโขน : Post Views:Continue readingพระพิราพ